นั่งงอหลังและตั้งใจฟังดนตรีที่บรรเลงออกมาจากหูฟัง จากนั้นก็ถอดออกและบรรเลงเมโลดี้ด้วยคีย์บอร์ด ภาพบรรยากาศการทำงานแบบนี้ของฟูจิโอกะเกิดบ่อยขึ้นเมื่อเริ่มเข้าสู่ปี2016 เสียงที่ได้ยินจากหูฟังทั้งสองข้างนั่นก็คือ เพลงใหม่ของ Raft ที่เขาแต่งขึ้นนั่นเอง
สำหรับฟูจิโอกะแล้วการแต่งเพลงนั้นไม่ใช่ครั้งแรกของเขา เมื่อถามความรู้ของการเป็นนักแต่งเพลง เขาก็ยิ้มและพูดว่า “คนที่แต่งเพลงเป็นคนที่น่าทึ่งมันสุดยอดจริงๆ” เขาพูดแบบนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาพูดดูถูกว่าตัวเองไม่เก่ง แต่เขารู้สึกนับถืออาชีพการเป็นนักแต่งเพลงและคิดว่า”ตัวเองก็ต้องทำมันให้ได้” เขาได้ใส่ความเชื่อมั่นลงไปในคำพูดนี้ด้วย แต่ทว่าเหตุใดคนที่เคยพูดว่า “ตัวเองไม่เหมาะกับการแต่งเพลง” อย่างฟูจิโอกะจึงเปลี่ยนความคิดและหันมาแต่งเพลงนั้น คำตอบก็คือ ความเปลี่ยนแปลงของการสำนึกในหน้าที่ของหัวหน้าวงRaftนั่นเอง
“จะต่อสู้ด้วย Raft เพลงหนึ่งเดียว” ด้วยการตัดสินใจนี้ เขาจึงถอนตัวออกจากอีกวงที่เขาได้ทำอยู่ในญี่ปุ่นด้วยตัวเอง เขาพูดว่า “หลังจากออกจากวงที่ทำอยู่ในญี่ปุ่นแล้วสมองก็โล่งขึ้นมาทันที” และเกิดความคิดว่า “อันนี้ก็ต้องทำ””อันนั้นก็ต้องทำ” ทำให้เขาเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง และหนึ่งในนั้นก็คือ การแต่งเพลงใหม่ ในการทัวร์ครั้งนี้ ได้มีการตัดสินใจหานักเล่นกีตาร์ที่จะมาเล่นแทนฟูจิตะอีกด้วย คอนเซ็ปท์เพลงของวงRaftคือ「LIBERAL MUSIC」ที่มีการหลอมรวมนักดนตรีมากมายเข้าด้วยกัน เขาได้หานักเล่นกีตาร์กับโคอุระ ผลก็คือการได้โยชิโนริ ฟูจิอิ ผู้มีความยืดหยุ่นในเรื่องต่างๆและมีความรวดเร็วในการโต้ตอบ มาเป็นสมาชิกใหม่ของวง ตอนที่ได้ซ้อมที่สตูดิโอกับ โคอุระ ฟูจิอิ ก็เกิดความรู้สึกทึ่งในการเล่นของโนริ(ฟูจิอิ) และรู้สึกประหลาดใจในทางที่ดีและคิดว่าเพลงที่ผ่านมาจะเป็นแบบนี้นี่เอง
เดือนเมษายนซึ่งเป็นเดือนแห่งการผลิบานของดอกซากุระ นอกจากนี้ยังเป็นเดือนที่จะเป็นการเข้าสู่เดือนพฤษภาคมเดือนแห่งการเตรียมพร้อมต้อนรับฤดูร้อน ซึ่งRaftจะไปยืนบนเวทีชี้ชะตาที่กรุงเทพ ฟูจิโอกะพูดด้วยความตื่นเต้นว่า “อยากให้คนที่เกี่ยวข้องกับงานทางด้านดนตรีได้เห็นพวกเราแสดงและเกิดความคิดว่า “อยากให้พวกนี้ได้ขี้นเทวีที่ไทยด้วยกันและถ้าได้เล่นดนตรีกับพวกนี้ต้องสนุกแน่ๆ” ท้ายที่สุดแล้วผลจะออกมาเป็นแบบไหนในเมืองที่แสงอาทิตย์อันร้อนแรงสาดส่องแห่งนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไป
