เมื่อมองย้อนกลับไป ครั้งล่าสุดที่มีการโพสท์ลงบนเว็บแมกกาซีนนี้คือเมื่อวันที่ 11 กันยายน จวบจนวันนี้ก็ประมาณ 8 เดือน สาเหตุที่ห่างหายไปนานก็เพราะว่าในระหว่างการเตรียมการสำหรับโปรเจ็คต่อไป ได้เกิดดราม่าขึ้นมากมาย แต่แล้วในที่สุด ก็ได้เกิดแผนการที่เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว สำหรับบทความในครั้งนี้ก็อยากจะเล่าความเป็นมาของแผนการนี้ให้ฟัง
ในเดือนเมษายน 2557 หลังจากเดินทางกลับจากประเทศไทย เหล่านักดนตรีได้กล่าวว่าพวกเขา “รู้สึกได้ถึงความเป็นไปได้และศักยภาพที่หลับไหลอยู่ในตัว” ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็รู้ว่าหากปล่อยทิ้งความเป็นไปได้นั้นไว้เฉยๆ ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะจบลงที่การเสียเวลาและเงินทุนไปอย่างเปล่าประโยชน์
“วางแผนโปรเจ็คต่อไปกันเลยเถอะ” หลังจากการประชุมนับครั้งไม่ถ้วน พวกเขาก็ได้บทสรุปว่าจะร่วมกันก่อตั้งวงดนตรีใหม่ และไปร่วมกันต่อสู้ฟาดฟันบนสังเวียนดนตรีที่ประเทศไทย
องค์ประกอบของวงประกอบไปด้วย เบส, กลอง, โวคัลลิสต์, และ กีตาร์ โดยมี โยชิยูกิเปนมือเบส และ เททสึโรเป็นมือกลอง นอกจากนี้แล้วโยชิยูกิยังมีหน้าที่ในการหามือกีตาร์และโวคัลลิสต์ที่จะมาเป็นสมาชิกของวง
นับตั้งแต่ตอนที่ได้คิดรูปแบบของวง โยชิยูกิก็มีคนที่เขาอยากให้มาเป็นมือกีตาร์ของวงอยู่ในใจอยู่แล้ว นั่นก็คือ โยชิโอะ ฟูจิตะ เพื่อนร่วมชั้นของเขาในสมัยที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนเฉพาะทาง ปัจจุบันโยชิโอะเป็นมือกีตาร์มืออาชีพที่โลดแล่นอยู่ในวงการดนตรีที่โตเกียว
มีอยู่หลายเหตุผลที่ทำให้โยชิโอะเป็นตัวเก็งสำคัญ ทั้งคู่นั้นรู้จักกันมานาน เคยเล่นอยู่ในวงเดียวกัน และยังเคยเล่นดนตรีให้กับนักนักร้องของญี่ปุ่นด้วยกันมาแล้ว ทั้งคู่ต่างมีสำนึกในความเป็นมืออาชีพด้วยกันทั้งคู่ และเหตุผลสำคัญที่อยู่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือเทคนิคการเล่นกีตาร์ของโยชิโอะที่มีความโดดเด่น เพียงฟังแค่ครั้งเดียว ไม่ว่าใครก็คงบอกได้ว่านี่คือเสียงกีตาร์ของ “โยชิโอะ ฟูจิตะ” ทั้งเมโลดี้และจังหวะจะโคนในเสียงกีตาร์ของโยชิโอะนั้นมีเอกลักษณ์ ไม่เพียงเท่านั้น ตัวโยชิโอะเองนั้นก็มีความยืดหยุ่น และมีความสามารถในการเรียนรู้ดนตรีทุกรูปแบบได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากได้พบกันเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี โยชิยูกิได้บอกโยชิโอะถึงรายละเอียดของโปรเจ็คและความรู้สึกอันแรงกล้าของตน โยชิโอะตอบโยชิยูกิเพียงแค่สั้นๆว่า “รับทราบ!”
ตัวโยชิโอะเองนั้นมีความสนใจในการแต่งเพลงอยู่ก่อนแล้ว โปรเจ็คนี้จึงถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับเขาเช่นกัน โยชิโอะได้ตัดสินใจแน่วแน่ที่จะเข้าเร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็คนี้ในฐานะนักดนตรีอย่างเต็มตัว ไม่ใช่แต่เพียงในฐานะตัวช่วยเท่านั้น
ตอนนี้ก็เหลือแค่ต้องหาโวคัลลิสต์! ทว่า แท้จริงแล้วสิ่งที่เฝ้ารอโยชิยูกิผู้เปี่ยมไปด้วยความฮึกเหิมอยู่นั้นคืออุปสรรคขวากหนามมากมายที่ยังต้องฝ่าฟันต่อไป